(credit cover: เพจ MBA มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี https://www.facebook.com/MBA.BTU/ )
ผมได้มีโอกาสได้รับชม session การเปลี่ยนผ่านศักยภาพผู้นำในสถานการณ์โควิด-19 เพื่อการเติบโตขององค์กรอย่างยั่งยืน โดย ดร. วรภัทร ภู่เจริญ อำนวยการจัดงานโดย นิสิต MBA สาขาการจัดการของมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ซึ่งผมเล็งเห็นจุดที่น่าสนใจหลายจุด จึงขอสรุปตามที่ตัวเองรับรู้มาได้ประมาณนี้ครับ
หมายเหตุ: ถ้ามีการถอดความผิดพลาดใด ผมขอน้อมรับความผิดพลาดจากการสื่อสารนี้นี้แต่เพียงผู้เดียวครับ
ผู้นำที่ดีในสถานการณ์โควิด 19
ก่อนที่จะเดินทางไปสู่ใจความสำคัญของบทความนี้ มีสิ่งที่น่าสนใจอยู่หนึ่งอย่างคือ ผู้นำสี่ทิศ ครับ ซึ่งประกอบด้วย
- กระทิง (ทิศเหนือ ธาตุไฟ) มีความมุ่งมั่น รวดเร็ว เน้นเป้าหมาย แต่มักจะแห้งแล้งน้ำใจ (ทำงานได้ผลแต่คนปวดร้าว)
- หนู (ทิศใต้ ธาตุน้ำ) มีความเมตตา สื่อสารนุ่มนวล ถ้าทำการฝึก Rapport, Facilitator จะก้าวหน้าเร็วมาก แต่มีความกลัวอยู่
- อินทรี (ทิศตะวันออก ธาตุลม) มีข้อมูล โครงการมากมายเต็มไปหมด คิดแปลกและแหวก แต่ไม่ลงมือทำเอง หมกมุ่นเรื่องในอนาคต
- หมี (ทิศตะวันตก ธาตุดิน) มีความเชี่ยวชาญเชิงลึก เน้นระบบระเบียบ ขั้นตอน คิดและทำในสิ่งที่ชอบ ที่ไม่ชอบก็จะไม่ทำ หรือฝีนใจทำ หมกมุ่นเรื่องในอดีต
การเป็นผู้นำในแต่ละ Mode นี้ ต้องเลือกใช้ให้ถูกที่ถูกสถานการณ์ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด (ถ้าเลือกใช้แบบผิดสถานการณ์จะให้ผลตรงข้าม สร้างความเดือดร้อนได้) จึงจำเป็นต้องมี โค้ช เป็นกระจกสะท้อนพฤติกรรมของผู้นำดังกล่าว เช่น
- การให้สัมภาษณ์ แถลง ปราศรัย ควรใช้ Mode หนู
- การประชุมเชิงความคิดสร้างสรรค์ หา Solution ต่างๆ ควรกัน บุคคลกลุ่มหมี ออกไปก่อน พอได้ solution แล้ว จึงสื่อสารให้บุคคลกลุ่มหมี ไปดำเนินการ
- อื่นๆ (ถ้ามีโอกาส ผมจะนำเสนอในคราวต่อไป)
ไม่ว่าผู้นำจะอยู่ Mode ใด หรือมีพฤติกรรมติดตัว เป็น Mode ใด Mode หนึ่งชัดเจนอยู่ ก็อย่าเกลียดคนที่อยู่ Mode ตรงข้าม เพราะในเหตุการณ์ที่เข้ามาในชีวิต จะมีความจำเป็นในการต้องปรับตัวอยู่ใน Mode ที่เหมาะสมเสมอ สุดท้ายแล้ว ผู้นำ จะเป็นได้ทั้ง 4 Mode นี้โดยดึงจุดดีมาใช้กับสถานการณ์ตรงหน้าได้เหมาะสม
~การบริหารสมัยใหม่ เน้นกระบวนการ (Process) และเครื่องมือการบริหาร~
ลงพื้นที่สถานที่จริง
เป็นผู้นำ ออกไปดูหน้างาน อย่ามัวแต่รับรายงานเพียงอย่างเดียว
ผู้นำต้องมีหน่วยข่าวกรองของตัวเอง (อุปมา กองทัพพิสดาร, A-Team)(ซึ่งไม่ใช่กลุ่มลูกน้องเดิมที่บริหารจัดการอยู่) เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แท้จริงในอีกด้านหนึ่ง
~…~
เลือกคนที่ใช่ ทั้งลูกน้อง และเพื่อน คนที่มี Solution, การเป็นผู้นำตามสถานการณ์
เลี่ยงคนคิดลบ หมกมุ่นแต่ปัญหา (Problem-based)
คนที่มี Solution-based จะดักสถานการณ์ที่จะเกิดด้วย solution ที่มี มากกว่า ตามแก้ปัญหาอย่างเดียว (ประมาณว่าคิดแบบ Prevention over Detection)
ศึกษาประวัติศาสตร์เชิงวิเคราะห์ (หา Why ในสถานการณ์ ทำไมเขาเลือกทำแบบนี้ ในสถานการณ์นี้)
ไม่ข่มเหงรังแกผู้หญิง
ความล้มเหลว ไม่ใช่เรื่องผิด ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องมาตีตรากัน
ลองคิดดูเถอะครับว่า กว่าผู้หญิงจะเขียนคิ้ว เขียนตาได้คมๆ ต้องเกิดการฝึกซ้อมกี่ร้อยกี่พันครั้ง ทำซ้ำกี่เดือน
~Failure is Learning~
เมื่อมีคำด่าเกิดขึ้น ขอบคุณและขอโทษ
~…~
ทำ Dialogue (สนทนาปลูกปัญญา) เพื่อให้เกิด Design Thinking
มี Flip Classroom
ล้มเหลวไม่กลัว กลัวทำไม่กี่ครั้งแล้วล้มเหลวไม่กี่หนมากกว่า ฮ่าฮ่าฮ่า
ไม่มีความล้มเหลวใดเกิน 17 ครั้ง
ผู้บริหาร มีพื้นที่ให้ลูกน้องได้ล้มเหลวหรือไม่
ฝึก Design Thinking โดยต้องเชี่ยวชาญพื้นฐานเรื่อง Empathize (ความเข้าอกเข้าใจ)
การจับผิด, Evaluate, Criticize สามารถทำได้ที่ขั้นตอน Prototype, Test ของ Design Thinking
~…~
ฝึกสติ เห็นตัวเองกำลังทำอะไรอยู่
ใช้เครื่องมือ ชม ฟัง ถาม สะท้อน (ดัดแปลงมาจาก SCARF Model โดย David Rock ผู้แต่งหนังสือ Quiet Leadership: Six Steps to Transforming Performance at Work)
ชม ที่พฤติกรรม ทัศนคติ Core Value เช่น ขยัน มุ่งมั่น มีน้ำใจ ไม่ย่อท้อ
ใช้ Indicator กลุ่มพฤติกรรม ในการประเมินคน (Key Behavior-based Indecator)
การใช้ KPI ควรใช้กับการประเมินยุทธศาสตร์ ปรับยุทธศาสตร์
พฤติกรรมมนุษย์มี 4 แบบ (จากหนังสือ Think Again ของ Adam Grant)
- Preacher (นักเทศน์)
- Prosecutor (ทนายความ)
- Politician (นักการเมือง)
- Scientist (นักวิทยาศาสตร์)
ซึ่ง ข้อ 1-3 เป็นพฤติกรรมที่ต้องเลี่ยง ไม่เอาเป็นแบบอย่าง
CEO คือนักสังเกตและปรับพฤติกรรม
“จิตวิทยาใดทำให้เด็กติดเกม จงเอาจิตวิทยานั้นทำให้พนักงานติดงานคึกอยากสร้างงาน” Gamification
Storytelling เล่าเรื่องที่กลิ้งล้มลุกคลุกคลาน กว่าจะมาถึงวันนึ้ มีข้อควรทำ ข้อควรเลี่ยง อะไรบ้าง
จงเข้าหา (Executive) Coach, (Career) Coach และ (Image and Personality) Coach
~…~
สร้าง Team สร้าง Successor (ผู้สืบทอด) สร้างคนที่เป็นมือขวา-มือซ้าย
กลุ่มของผู้สืบทอดที่มีการตัดสินใจแบบ เอกฉันท์ (Consensus)
มือซ้าย มือขวาที่ผู้นำต้องมี คือ คนที่เชี่ยวชาญบัญชีการเงิน และ คนที่เชี่ยวชาญเรื่องกฎหมาย
~…~
Social Listening ดักและสังเกตการใช้คำ,สำนวนในการคุย
CEO ต้องเก่งเรื่อง คน
มี Synonym สำหรับ Negative Word ซึ่งมีความหมายเชิงบวกและเป็นแนวทางคำถาม เช่น คุณมันดื้อ เปลี่ยนเป็น คุณไม่มีเวทีให้ได้แสดงออกหรือเปล่านะ?
ผู้นำต้องมีปิยะวาจา, วาจาสัตย์
~…~
Collaborative
การร่วมแรงร่วมใจ สอดประสานทำงานกันได้ จำเป็นต้องมี Coach Fa Mentor ซึ่งนำไปสู่การเป็น วิปัสสนาในขณะทำการสนทนา อย่างเป็นธรรมชาติ
~…~
Just Do It
ทำทำไปเถอะ ผิด อยู่ ดี ฮ่าฮ่าฮ่า (อุปมา พระมหาชนก ที่ว่ายน้ำไปอย่างมีความเพียร, ผู่เฒ่าขุดภูเขา ที่มีความมานะในการขุดภูเขาเพื่อหวังให้มีเส้นทางให้เดินทางได้เร็วขึ้น แม้จะถูกปรามาส แม้สำเร็จเล็กๆ ก็ยังทำต่อไป)
~…~
สร้าง Influencer
คือ ผู้ปั่นกระแส ซึ่งผู้นำควรมีผู้ปั่นกระแสทางบวก ให้กำลังใจพนักงานในยามยาก ยามเจอวิกฤต
~…~
What/How/Why
คือคุณภาพของ Purpose โดย
- What นำคนด้วยผลงาน โบนัส KPI
- How นำคนด้วยเหตุผล เทคโนโลยี ระบบ
- Why นำคนด้วยใจ ปณิฐาน คุณค่า
ผู้นำ ต้อง Set Stage และทำ Roleplay เพื่อสร้าง Solution เพื่อรับมือเมื่อมีกรณีฉุกเฉินขึ้น
ลำดับของ Purpose ที่ดี อิงตาม บันไดก้าวขั้นของผู้นำ (อ่านจากล่างสุดขึ้นมานะครับ)
- R7: Legend
- R6: Unseen Leader
- R5: Diplomat
- R4: Strategist
- R3: Facilitator
- R2: Coach and Mentor
- R1: Teacher
- R0: Commander
- R-1: Blamer
~…~
บทส่งท้าย
“ก่อนที่จะเปลี่ยนใครให้เป็นผู้นำ ทำตัวเองให้คนเขาไหว้เขาเคารพได้อย่างสนิทใจจะดีกว่านะ”