in Uncategorized

สรุปสิ่งที่ผมได้รับรู้จาก Session Merchandise Design and Workshop

(credit cover: เพจ Bangkok International Digital Content Festival https://www.facebook.com/bidc.fest/ )
     
   ผมได้มีโอกาสได้รับชม session Merchandise Design and Workshop โดยคุณ Jitsing Somboon อำนวยการจัดงานโดย Bangkok International Digital Content Festival ซึ่งผมเล็งเห็นจุดที่น่าสนใจหลายจุด จึงขอสรุปตามที่ตัวเองรับรู้มาได้ประมาณนี้ครับ

ั้นตอน วิธีการ

    ใช้วิธีการการพัฒนา Collection สำหรับ brand ต่างเพื่อจำหน่าย โดยสร้้าง Concept ที่เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้า เป็นตัวตั้งต้น และทำการพัฒนางานตามแรงบันดาลใจ, ความชอบส่วนตัว และ Technique ของศิลปิน

(ทางวิทยากรได้ยกตัวอย่างงานที่เคยทำเมื่อปี 2016 ที่มีแรงบันดาลใจจาก Henri Matisse ที่มี shape, formไปในแนวทางใบไม้ ที่เรียบง่าย ผ่านการตัดกระดาษ และใช้สีเฉดเดียว (Solid Color) นำมาปรับการจัดวาง การใช้สี เช่น สีสดๆ สำหรับกลุ่มลูกค้าผู้หญิง สีโทนเขียวลายพรางสำหรับลูกค้าผู้ชาย และทำ Brand/CharacterIdentity มาเป็น Point of Interest ของ Product นั้น และมีความต่าง เพื่อได้กลุ่มสำหรับ collection)

ทุกอย่างในโลก มันมี Marketing หมด ต่อให้มันไม่มีตั้งแต่แรก มันก็จะถูกจับไปเป็น Marketing ในรูปแบบใดแบบหนึ่งอยู่ดี ถ้าคุณต้องเลี้ยงชีพด้วยศิลปะ ยังไงก็ต้องมี Marketing อยู่ในตัวงาน

Jitsing Somboon

    Collection หนึ่งๆ ที่ผลิตขึ้น ก็จะมีการเลือกใช้ idea ลองสิ่งใหม่ๆ ร่วมกับ brand สินค้าต่างๆ และ trend ในช่วงนั้น (เน้นลายเส้นชัดๆ เน้น two tone เป็นต้น)

    การใช้ Character ที่พัฒนามาจากสัตว์ มีความจำเพาะที่ อาจจะจำหน่ายในบางประเทศไม่ได้ (ด้วยเหตุของ ศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี) เป็นประเด็นที่ต้องพิจารณา ปรับให้เหมาะสม เช่นเปลี่ยนไปใช้สิ่งที่ abstract แทน หรือเน้น text

    การใช้ Character ที่มีชื่อเสียงอยู่แล้วกับ Brand ยอดนิยม (เรียกว่า Brand Collaboration) มีความจำเป็นที่ต้องปรับ Direction จากฝั่งใดฝั่งหนึ่ง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการเจรจาตกลงร่วมกัน มีผลคือการสร้างลูกค้ากลุ่มใหม่ (ทั้งแบบ new face และการรวมกันจาก กลุ่มลูกค้าประจำ brand เดิม) และ brand เองมีความทันยุคสมัย (ซึ่งก็ไม่ใช่กฎตายตัว เพราะบาง collection เลือกที่จะใช้ trend ในสมัยเก่า เอามาปรับใช้ แล้วประสบความสำเร็จในการจำหน่ายได้เหมือนกัน)

    การสร้าง Character ที่มีเรื่องเล่าในเชิงการแปลงรูปร่าง (เช่น มี 5 formations ที่คุณสมบัติแตกต่างกัน ปรับไปตามบริบทของเนื้อเรื่อง) หรือ เป็นการรวมกันระหว่าง สิ่งที่มีอยู่เดิม (เช่น หมีผสมกับไดโนเสาร์, หุ่นยนต์ผสมกับสุนัข เป็นต้น) เป็นอีกหนึ่งทางในการสร้าง variety ของตัว production ที่น่าสนใจและทำให้ collection นั้นๆ มีความหลากหลายในตัวมากขึ้น

ส่งท้าย

  • Character ต้องสื่อ Identity ออกมาให้ชัดที่สุด
  • เรียนรู้ปัจจุบัน และคาดการณ์อนาคตที่ไม่เกินตัว ด้วยข้อมูลในอดีต
  • What if (ถ้าเราอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ เราจะทำอย่างไร)

Write a Comment

Comment