(credit cover: เพจ Bangkok International Digital Content Festival https://www.facebook.com/bidc.fest/ )
ผมได้มีโอกาสได้รับชม session Introduction to Evolution of Animation Training โดยคุณ Veerapatra Jinanavin อำนวยการจัดงานโดย Bangkok International Digital Content Festival ซึ่งผมเล็งเห็นจุดที่น่าสนใจหลายจุด จึงขอสรุปตามที่ตัวเองรับรู้มาได้ประมาณนี้ครับ
การสอน Animation ตั้งแต่อดีตในปัจจุบัน
ที่มีมาก่อนแล้วนั้น สามารถจัดได้อยู่ 3 กลุ่ม คือ
- Software Classเน้นในการใช้เครื่องมือ Software ที่นิยมในตลาด และทำในทุกขั้นตอนของการทำ 3D แบบรวมๆ
- Offline Class เน้น Interaction ระหว่างผู้สอน ผู้เรียน พัฒนาทักษะต่างๆ ในขณะทำ Workshop ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- Online Class เน้นดู Video Content หรือ Live Streaming เพื่อให้ผู้เรียนได้ทำตาม
และเริ่มมีการใช้วิธี Animation Critique (ทำงานใน class ประมาณ 20 นาทีและนำมา Feedback กันในกลุ่มเรียน) โดยมี Mentor ประมาณ 1-2 คน ให้คำแนะนำจุดเด่น จุดปรับปรุง และมี การบ้านเมื่อจบ Class ในแต่ละวัน
Study Survey
- กลุ่มที่ให้ข้อมูลมากที่สุด คือ Fulltime Animator (40.8%)
- ช่วงอายุงานที่มีมากที่สุด คือ 2-4 ปี (21.2%)
- ศึกษา Animation จาก โรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย (32.2%)
- ขั้นตอนการทำ Animation ที่ไม่ถนัดและเป็นปัญหามากที่สุดคือ Animation Machine การเคลื่อนไหวที่ถูกต้อง (18.5%)
- การเรียนรู้ Animation ได้เร็วที่สุดและได้ความรู้มากที่สุด มาจากช่องทาง การ Comment/Critique งานโดย Expert/Supervisor (40.6%)
- การที่จะเป็น Animator มืออาชีพนั้น ใช้เวลาเรียนรู้นานเท่าไหร่ คือ ใช้เวลา 5 ปีเป็นอย่างน้อย (41.4%)
- ปัญหาในการเรียนรู้ Animaition เช่น การสื่อสาร ทั้งกับทางผู้ร่วมงานกันเอง หรือกับ Expert/Supervisor, Career Path ที่ไม่สอดคล้องกับความค่อยเป็นค่อยไปในการพัฒนาคน
วิเคราะห์
ผมขอแบ่งข้อมูลออกเป็น 4 หมวดดังนี้
ใช้เวลานานมาก ในการเป็น Animator ระดับทำงานเชิง Professional ได้ (จากการเรียน การทำ workshop ที่ใช้เวลานาน แต่ได้ Feedback/critique ในเวลาที่สั้น)
ความยาก (เพราะมีความรู้ในหลายศาสตร์ที่จำเป็นต้องเรียนรู้ และ feedback loop ที่ยาวมากในการเรียน ปรับแก้ความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน)
ปัญหาในหลายๆมิติ (การที่ไม่รู้ว่า ต้อง Focus กับอะไรแน่ๆ ความหลากหลายของกลุ่มเรียน)
ต้องการความช่วยเหลือ ต้องการ Mentor (เพราะที่มีอยู่นั้น ไม่เพียงพอ)
Solution ที่เป็นไปได้
ผมขอแบ่งข้อมูลออกเป็น 4 หมวดดังนี้
Focus เพื่อใช้เวลากับการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ เรียนน้อยคนในแต่ละ Class เพื่อความทั่วถึง ลดการ Burnout จากการที่ใช้เวลานาน แต่ไม่ได้อะไรกลับมาเป็นชิ้นเป็นอันเลย
Step ถ้าสิ่งที่ยาก ถ้าถูกจัดเป็นขั้นเป็นตอน ง่ายต่อความเข้าใจและเชื่อมแต่ละขั้น ถ้าขั้นตอนเล็กเพียงพอ จะสามารถทำซ้ำเพิ่มความชำนาญได้
Progression เห็นความเปลี่ยนแปลงที่ได้รับจากการเรียน การฝึกฝน ด้วย Feedback loop ที่สั้น (รู้ผลเร็ว ปรับแก้่ได้เร็ว มีกำลังใจจะลุยต่อ)
Record เก็บบันทึก ผลงาน ผลการฝึก เพื่อตรวจสอบตัวเองย้อนหลัง เพื่อปรับปรุงและปรับแผน
~Animation Learning like Fitness~
- Eye Memory (Sense of Animation)
- Warm Up ก่อนสร้างงาน Cool Down หลังทำงาน
- I Do, We Do, You Do